วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ดนตรี

ดนตรี

"ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก" เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำพูดดังกล่าว แต่กี่คนจะทราบรู้ว่า แท้จริงแล้ว ดนตรีมีความสำคัญอย่างไรกับชีวิตมนุษย์

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของ ดนตรี ไว้ว่า "เสียงที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลง เครื่องบรรเลงซึ่งมีเสียงดังทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน หรือเกิดอารมณ์รัก โศกหรือรื่นเริง" จากคำแปลดังกล่าวก็คงพอช่วยให้เราเข้าใจความหมายในระดับหนึ่ง

ดนตรีเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มานานนับ พันปี แสดงให้เห็นว่า ชีวิตมนุษย์เกี่ยวข้องกับดนตรีอย่างแยกออกจากกันมิได้ ไม่ว่าคนๆนั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ตลอดเวลาทั้งชีวิตของเค้าต้องเกี่ยวข้องกับดนตรีไม่มากก็น้อย บางคนรักและชอบดนตรีมากด้วยเหตุผลว่า มันให้ความรู้สึกเป็นสุข สนุกสนาน ผ่อนคลาย แต่บางคนกลับไม่ชอบซักเท่าใด รู้สึกว่าไม่จำเป็นกับชีวิต น่ารำคาญ มองดูเหมือนงานศิลปะอย่างอื่น เช่น งานปั้น จิตรกรรม ภาพเขียน ซึ่งเป็นเรื่องของคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

แท้จริงแล้ว งานิลปะทุกแขนงนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจ หลายคนปิดกั้นความรู้สึกของตนเอง คิดว่าไม่เหมาะกับเรา เราไม่ใช่ศิลปิน วาดรูปก็ไม่เป็น เล่นกีตาร์ก็ไม่เป็น แต่นั่นมันสำคัญหรือ เราสามารถชื่นชอบหรือเสพงานศิลปะได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สร้าง สรรค์มันแต่อย่างใด แต่การที่เรารู้หรือเคยปฏิบัติมาก่อน ก็จะช่วยให้เราเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณทำสิ่งเหล่านั้นไม่เป็น ก็จะเป็นอะไรไป ถ้ามีแต่คนเล่นดนตรี แล้วมี่คนฟัง มีแต่คนวาดรูป แต่ไม่มีใครดู ถ้าอย่างงั้นงานเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร

ดนตรีถูกใช้และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์มากมาย ตั้งแต่คุณตื่นขึ้นมา เสียงเพลงจากวิทยุ เสียงเพลงเคารพธงชาติ ข้างบ้านเปิดเพลงหมอลำ วัยรุ่นเปิดเพลงแร๊ป เพลงร๊อค ที่กระจายเสียงหมู่บ้านเปิดเพลงพื้นเมือง คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างฮัมเพลงลูกทุ่ง วัดมีการสวด(เพลง)ศพ โบสถ์คริสต์มีการร้องเพลงประสานเสียง คนขับรถเมล์ก็ฟังเพลง มาที่ทำงานก็เปิดเพลงสากลฟัง กลับบ้านเปิดทีวีก็มีเพลง มีดนตรีอีกแล้ว แล้วอย่างนี้คงไม่ต้องสงสัยว่า ชีวิตคุณเกี่ยวข้องกับดนตรีหรือไม่

โดยมากแล้ว ดนตรีถูกใช้เป็นตัวประกอบในกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน ในการทำกิจกรรมนั้นๆ ทำงานไป เปิดเพลงฟังก็เพลินดีไม่เครียด อ่านหนังสือสอบก้เปิดเพลงเบาๆคลอไปก็ช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น มีงานวิจัยออกมาในทำนองนั้นเช่นกัน และมีการเปรียบเทียบระหว่างต้นไม้ที่ถูกเปิดดนตรีให้ฟังทุกวัน กับต้นไม้ที่ไม่เคยได้ยินเสียงดนตรีเลย ต้นที่สัมผัสกับเสียงดนตรีอยู่เป็นประจำกลับมีลักษณะสวยงาม ออกดอกสดใสกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับต้นที่อยู่เงียบๆ!!! แม้แต่ต้นไม้ ดนตรียังส่งผลกับมัน นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่มีหูถึงสองข้างไว้รับฟังสิ่งต่างๆ

คุณค่าของดนตรีหรืองานศิลปะอื่นๆนั้น ไม่สามารถตีค่าออกมาเป็นรูปธรรมได้ว่ามีคุณค่ามากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับภาวะของผู้ฟังนั้นเอง เพราะเป็นเรื่องของนามธรรมล้วนๆ เป็นเรื่องของจิตใจ คงจะบอกไม่ได้ว่า เพลงใดมีคุณค่ามากกว่าเพลงใด เพราะคุณค่าของแต่ละคนต่อเพลงนั้นๆคงไม่เท่ากัน และเป็นการไม่ถูกต้องที่เราจะบอกว่า ดนตรีแบบนี้ ดีกว่าแบบนั้น เพราะคุณเอาอะไรมากตัดสินว่ามันดีกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า เพลงร๊อกดีกว่าเพลงลูกทุ่ง หรือเพลงคลาสสิคสุดยอดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด นอกนั้นเป็นดนตรีขยะ ทุกบทเพลงหรือดนตรีใดๆล้วนมีคุณค่าในตัวของมันเองทั้งสิ้น การแบ่งแยกเพื่อจำแนกประเภทของดนตรีเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การแบ่งแยกเพื่อดูหมิ่นดนตรีที่แตกต่าง เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น